5 เทคนิคแปลงานวิจัย ให้สำร็จได้เร็วขึ้น
การแปลงานวิจัยเป็นสิ่งที่ยากสำหรับผู้วิจัยมือใหม่ส่วนใหญ่ เพราะผู้วิจัยมือใหม่บางท่านไม่มีประสบการณ์ในด้านการเขียนงานวิจัย หรือไม่มีความถนัดในด้านการแปลวิจัยให้สามารถเข้าใจได้ง่าย และใช้ภาษาที่ถูกต้องทั้งหมดได้
ดังนั้นบทความที่จะกล่าวต่อไปนี้ จะเป็นตัวช่วยให้ท่านสามารถที่จะแปลงานวิจัยได้ง่ายขึ้น และเสร็จทันเวลาที่กำหนด โดยมีเคล็ดลับที่ทำได้ไม่ยาก
1. อ่านงานวิจัยที่ท่านต้องการจะแปลอย่างละเอียด
ก่อนเริ่มเรียบเรียงการแปลงานวิจัยของท่าน ท่านควรที่จะอ่านงานวิจัยที่ท่านต้องการแปลอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจกับงานวิจัยเล่มดังกล่าว และนำมาเรียบเรียงใช้ภาษาที่ถูกต้อง สามารถเข้าใจได้ง่าย
เพราะถ้าหากท่านไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับงานวิจัยที่ท่านจะแปล อาจจะส่งผลให้ท่านไม่สามารถที่จะทำงานวิจัยดังกล่าวให้เสร็จได้โดยง่าย และโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดในการแปลก็จะมีมากกว่า เพราะท่านไม่เข้าใจเกี่ยวกับงานวิจัยที่ท่านจะแปลอย่างชัดเจน
ดังนั้นการที่ท่านจะแปลงานวิจัยเรื่องใด ท่านจำเป็นที่จะต้องอ่านงานวิจัยที่ท่านต้องการจะแปลให้เข้าใจอย่างชัดเจน เพื่อที่จะทำให้ท่านสามารถทำการแปลวิจัยให้เสร็จได้โดยง่าย และลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดจากการไม่เข้าใจเนื้อหาได้อีกด้วย
2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยที่ท่านจะแปล
ในการแปลงานวิจัยท่านจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยที่ท่านจะแปล เพื่อที่ท่านจะสามารถที่จะเข้าใจเนื้อหาข้อมูลของเรื่องที่ท่านจะแปลได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
การศึกษาข้อมูลไว้ก่อนถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการแปลวิจัยของท่าน เพราะถ้าหากท่านไม่มีการ
เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มทำ อาจจะส่งผลให้ท่านไม่สามารถที่จะทำงานให้ถูกต้อง เข้าใจง่าย และเสร็จได้เร็วมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นการที่ท่านได้ทำการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวกับงานวิจัยมาก่อน จะทำให้ท่านมีความพร้อมที่จะทำงานได้มากกว่าการไม่เตรียมความพร้อม
3. จัดการวางแผนการแปลงานวิจัยอย่างเหมาะสม
ก่อนเริ่มต้นแปลงานวิจัยท่านควรมีการวางแผนที่เหมาะสม เพราะการวางแผนจะช่วยให้ท่านสามารถทำงานได้เสร็จตามทันเวลาที่กำหนด และเหลือเวลามากเพียงพอที่จะตรวจสอบข้อผิดพลาด และแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวางแผนในการแปลงานวิจัยที่ดีนั้น ท่านจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าตนเองมีเวลาว่างในช่วงเวลาใด และมีสมาธิที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในช่วงกลางวัน หรือกลางคืน เพื่อที่ท่านจะสามารถกำหนดแนวทางการใช้ชีวิตประจำวัน และการทำงานของท่านได้อย่างเหมาะสม
โดยเฉพาะท่านที่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบยิ่งต้องมีการวางแผนการจัดการเวลาที่เหมาะสม เพื่อที่การทำงานของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อหน้าที่ที่ท่านต้องรับผิดชอบ
4. เรียบเรียงและตรวจสอบความถูกต้อง
เมื่อท่านแปลงานวิจัยเรียบร้อยแล้ว ท่านต้องนำงานวิจัยของท่านมาเรียบเรียง โดยการใช้ภาษาที่เหมาะสม และเข้าใจได้ง่าย เพราะถ้าหากท่านใช้ภาษาที่เป็นทางการมากเกินไป ก็อาจจะทำให้บุคคลทั่วไปที่เข้ามา
อ่านงานวิจัยที่ท่านแปลมาอาจจะเข้าใจได้ยาก
เนื่องจากบุคคลที่สนใจการแปลงานวิจัยของท่านจะเป็นกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องนั้นๆ ไม่ได้มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับเนื้อหานี้ แต่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม การใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายจะช่วยให้บุคคลที่สนใจสามารถเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาได้ง่ายยิ่งขึ้น
และเมื่อท่านเรียบเรียงเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อมาคือท่านควรที่จะตรวจสอบการใช้ภาษาของท่าน และตรวจหาคำผิด เพื่อที่จะแก้ไขและส่งผลให้งานวิจัยของท่านสมบูรณ์มากที่สุด
5. นำไปให้เจ้าของภาษาช่วยตรวจสอบ
เมื่อท่านทำการเรียบเรียงและตรวจสอบข้อผิดพลาดเรียบร้อยแล้ว การที่จะช่วยให้ท่านามารถที่จะใช้ภาษาได้ถูกต้องที่สุด คือการให้เจ้าของภาษาช่วยตรวจดูว่าภาษาที่ท่านใช้ หรือสำนวนที่ท่านใช้นั้นถูกต้องหรือไม่
เนื่องจากภาษาแต่ละภาษานั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และคำก็มีการใช้ในหลายบริบท การให้เจ้าของภาษามาช่วยตรวจสอบซ้ำอีกรอบ ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้การแปลงานวิจัยของท่านสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นท่านจึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งเจ้าของภาษาในการช่วยเรื่องการตรวจสอบการใช้คำ และเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ท่านจะสามารถดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว และเหมาะสม ส่งผลให้การแปลงานวิจัยของท่านได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลงมือทำ
การแปลงานวิจัยเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากมากนัก ถ้าหากท่านสามารถนำเคล็ดลับต่างๆที่ได้กล่าวไว้ในเบื้องต้นไปประยุกต์ใช้กับการทำงานของท่าน ท่านก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสร็จได้ทันเวลาที่กำหนด
ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)