บทบาทของการวิเคราะห์ทางสถิติในการทดสอบหานัยสำคัญทางสถิติในการวิจัย
การวิเคราะห์ทางสถิติมีบทบาทสำคัญในการทดสอบนัยสำคัญทางสถิติในการวิจัย นัยสำคัญทางสถิติ หมายถึง ความน่าจะเป็นที่ผลการศึกษาเกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพื่อตรวจสอบว่าผลการศึกษามีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่ นักวิจัยทำการทดสอบทางสถิติเพื่อคำนวณความน่าจะเป็นที่ผลลัพธ์ที่สังเกตได้อาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญเพียงอย่างเดียว
มีการทดสอบทางสถิติหลายแบบที่สามารถใช้เพื่อทดสอบนัยสำคัญทางสถิติ ขึ้นอยู่กับคำถามการวิจัยเฉพาะที่กำลังศึกษาและลักษณะของข้อมูลที่กำลังวิเคราะห์ การทดสอบทางสถิติทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ การทดสอบค่า t, ANOVA และการทดสอบไคสแควร์
เพื่อทำการทดสอบทางสถิติ อันดับแรก นักวิจัยต้องระบุสมมติฐานว่าง ซึ่งเป็นข้อความเกี่ยวกับประชากรที่กำลังศึกษาโดยถือว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่กำลังตรวจสอบ สมมติฐานที่เป็นโมฆะจะถูกทดสอบกับสมมติฐานทางเลือก ซึ่งเป็นคำสั่งที่อนุมานว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่กำลังตรวจสอบ
จากนั้นจึงใช้การทดสอบทางสถิติเพื่อคำนวณความน่าจะเป็นที่ผลลัพธ์ที่สังเกตได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญเพียงอย่างเดียว โดยกำหนดให้สมมติฐานว่างเป็นจริง หากความน่าจะเป็นนี้หรือที่เรียกว่าค่า p น้อยกว่าระดับนัยสำคัญที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ปกติคือ 0.05) สมมติฐานว่างจะถูกปฏิเสธและถือว่าผลลัพธ์มีนัยสำคัญทางสถิติ
โดยสรุป การวิเคราะห์ทางสถิติใช้ในการวิจัยเพื่อทดสอบนัยสำคัญทางสถิติโดยทำการทดสอบทางสถิติเพื่อคำนวณความน่าจะเป็นที่ผลลัพธ์ที่สังเกตได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญเพียงอย่างเดียว หากความน่าจะเป็นต่ำเพียงพอ ผลลัพธ์จะถือว่ามีนัยสำคัญทางสถิติและยอมรับสมมติฐานทางเลือก